กลยุทธ์สยบมหาอำนาจ (12) : กลยุทธ์ถอนฟืนใต้กะทะสู่การพิชิตอ้วนเสี้ยวที่กัวต๋อ กลยุทธ์ที่ 19 ของ 36 กลยุทธ์ ได้ว่าเรื่องของกลยุทธ์ถอนฟืนใต้กระทะ กลยุทธ์นี้มีความหมายว่า เมื่อเปรียบเทียบกำลังกันแล้ว มิเหนือกว่าข้าศึก พิงหาทางบันทอนความฮึกเหิมลงเสีย “ดุจฟ้าอยู่เหนือน้ำ” ตามคำอธิบายของ “คัมภีร์ 64 ทิศ ปฏิบัติ” “น้ำ” หมายถึงความแกร่ง “ฟ้า” หมายถึงความอ่อน รวมแล้วหมายความว่า เอาอ่อนชนะแข็ง ซึ่งก็คือพึงใช้วิธีอ่อนพิชิตแข็ง ฉกฉวยโอกาสทำลายกำลังส่วนหนึ่งของข้าศึกไปเสีย ให้พ่ายไปสิ้นในภายหลัง ที่ว่า “ดุจฟ้าอยู่เหนือน้ำ” เปรียบเทียบเป็นการแก้ปัญหาให้สิ้นไปโดยพื้นฐาน กลยุทธ์นี้เป็นอุบายในการบั่นทอนพลังของข้าศึกที่ละส่วน จนทำลายข้าศึกเป็นส่วนใหญ่หรือทั้งหมดได้อย่างหนึ่ง
ในสมัยสามก๊ก อ้วนเสี้ยวยกกองทัพใหญ่กว่าเจ็ดสิบหมื่นมา ณ ตำบลกัวต๋อ โจโฉรวบรวมทหารได้เจ็ดหมื่นเศษ จึงยกกองทัพไปสกัดอ้วนเสี้ยวไว้ กองทัพอ้วนเสี้ยวสร้างหอรบสูงให้ทหารธนูยิงใส่กองทัพโจโฉ ทหารโจโฉล้มตายเป็นอันมาก ที่ปรึกษาโจโฉ เล่าหัว แก้เกมโดยการเสนอใช้เครื่องยิงหินยิงใส่หอรบสูงของอ้วนเสี้ยว
การรบผ่านมาเป็นเวลาหลายเดือน เสบียงในกองทัพโจโฉหมด โจโฉให้ม้าเร็วส่งหนังสือไปเร่งเสบียงมาจากซุนฮก ผู้รักษาเมืองฮูโต๋ แต่เขาฮิวที่ปรึกษาอ้วนเสี้ยวจับได้ นำความมาบอกอ้วนเสี้ยว แต่อ้วนเสี้ยวไม่เชื่อ กล่าวหาว่า เขาฮิวมีใจไม่ซื่อสัตย์ เนื่องจากเคยเป็นเพื่อนกับโจโฉมาก่อน ประกอบกับสิมโพยที่ปรึกษาอีกคนของอ้วนเสี้ยว กล่าวหาว่า เขาฮิวฉ้อราษฎร์บังหลวง เขาฮิวกลัวความผิดจึงหนีมาหาโจโฉ
เขาฮิวเสนอให้โจโฉทำลายเผาค่ายเก็บเสบียงอ้วนเสี้ยว ณ ตำบลอัวเจ๋า ซึ่งอิเขงที่เป็นแม่ทัพรักษาอยู่นั้น เสพสุราทั้งวันทั้งคืน มิสนใจในการป้องกันค่าย ทำให้เป็นเป้าโจมตีได้ง่าย โจโฉจึงตัดสินใจยกกองทัพไปตีค่ายเสบียงของอ้วนเสี้ยว พร้อมกับวางกำลังรักษาค่ายตนให้เข้มแข็ง ทันทีที่ได้ทราบข่าวอัวเจ๋าถูกโจมตี อ้วนเสี้ยวโกรธเป็นอันมาก กัวเต๋าที่ปรึกษาเสนอให้ยกทัพไปตีค่ายโจโฉที่คาดว่าไม่มีทหารเฝ้าค่าย แต่เตียวคับ โกลำ แม่ทัพเสนอให้ไปช่วยค่ายเสบียง อ้วนเสี้ยวตัดสินใจทำสองอย่าง ให้เตียวคับ โกลำ ยกไปตีค่ายโจโฉ ซึ่งไม่สามารถตีให้แตกได้ และสามารถรบชนะเผาค่ายเสบียงอ้วนเสี้ยวพร้อมกับสักประจานอิเขงว่า ขี้เมา ส่งกลับไปให้อ้วนเสี้ยวดูต่างหน้าว่า ขี้เมาแบบนี้รักษาค่ายสำคัญ รบยังไงก็ไม่สามารถชนะได้
กัวเต๋าที่ปรึกษาเห็นว่าแผนการตนไม่สำเร็จจึงร้อนตัว จึงโยนความผิดให้สองแม่ทัพว่า ไม่ตั้งใจทำศึก อ้วนเสี้ยวหูเบาหลงเชื่อคำกัวต๋อ จะให้ประหารเตียวคับ โกลำ แต่สองคนรู้ทัน หนีไปอยู่กับโจโฉ ทำให้อ้วนเสี้ยวเสียนายทหารเอกไปถึงสองคน สถานการณ์อ้วนเสี้ยวเสียเปรียบและคับขันยิ่งนัก กองทัพโจโฉเมื่อเห็นว่าได้เปรียบมาก จึงทุ่มกำลังทั้งหมดโจมตีกองทัพอ้วนเสี้ยว กองทัพอ้วนเสี้ยวที่เสียขวัญอยู่แล้ว จึงพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย อ้วนเสี้ยวจำต้องถอยหนีกลับเข้าเมืองกิจิ๋ว
ศึกกัวต๋อครั้งนี้ค่ายเสบียงที่อัวเจ๋าเหมือนจุดตายของอ้วนเสี้ยว มีความสำคัญสำหรับอ้วนเสี้ยวทั้งด้านกำลังพลและด้านจิตใจ หลังจากที่อัวเจ๋าโดนตีแตก กองทหารอ้วนเสี้ยวเริ่มเสียขวัญอย่างมากทำให้การต่อสู้ของฝ่ายอ้วนเสี้ยว อ่อนแอลงและส่งผลให้กองทัพอ้วนเสี้ยวพ่ายแพ้ในที่สุด
กลยุทธ์นี้สรุปได้ว่า “ในสถานการณ์ศึกซึ่งติดพันชุลมุนเป็นอย่างยิ่งนั้น การรบด้วยภาวะจิตจักเป็นยุทธวิธีที่ดีที่สุด และเป็นโอกาสที่จะรบให้ชนะ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เมื่อใคร่ประสงค์จะทำลายกำลังของข้าศึก ก็จักต้องทำลายกำลังหลัก ทำลายหัวใจของข้าศึกเป็นเบื้องแรก ในเวลาเช่นนี้ จิตใจของแม่ทัพนายกอง ก็คือ “ฟืน” เมื่อถอน “ฟื้น” ออกแล้ว น้ำใน “กระทะ”ก็จัก “เดือด” ต่อไปมิได้ฉันนั้น