กลยุทธ์สยบมหาอำนาจ (28) : การเดินทัพในพื้นที่คับขันกับการสูญเสียหงส์ดรุณ ในตำราพิชัยสงครามซุนวูได้กล่าวถึงการเดินทัพในป่าเขา พื้นที่คับขันอันตาย ห้วยหนองคลองบึง เส้นทางยากเข็ญเหล่านี้ เรียกว่ายุทธภูมิวิบาก ทางเข้าเล็กแคบ ทางกลับวกวน เขากำลังน้อยสามารถตีเรากำลังมาก เรียกว่ายุทธภูมิโอบล้อม ในยุทธภูมิวิบาก เราพึงเร่งเดินทัพให้พ้น ในยุทธภูมิโอบล้อม เราพึงอุดช่องโหวให้แน่น เจ้านายผู้ชาญฉลาดพึงไต่ตรองจงหนัก แม่ทัพผู้ยอดเยี่ยมพึงดำเนินการรอบคอบ ไม่เป็นผลดีไม่กรีธาทัพ เพราะหากสูญชาติมิอาจกลับคืน สิ้นชีพมิอาจกลับฟื้น
หลังจากเล่าเจี้ยงทราบว่าด่านโปยสิก๋วนเสียแก่เล่าปี่แล้วก็ตกใจ จึงให้เตียวหยิมทหารเอกนำกองทัพเสฉวนรักษาด่านเมืองลกเสีย ฝ่ายเล่าปี่ก็ตระเตรียมกองทัพเข้าบุกลกเสีย โดยปรึกษากับบังทองและหวดเจ้ง ได้ข้อสรุปว่าจะให้แบ่งกองทัพออกเป็นสองทาง โดยให้เล่าปี่บุกเข้าทางสายใหญ่ ส่วนบังทองเข้าทางสายเล็ก อันเป็นพื้นที่ช่องเขาที่เดินทางได้ลำบาก ฝ่ายบังทองซึ่งเดินทางเข้าทางสายเล็กพลาดท่า ถูกทหารเตียวหยิมซุ่มโจมตี โดยการระดมยิงธนูจนเสียชีวิต ณ เนินลกห้องโห(หรือเนินหงส์ร่วง)
เล่าปี่ซึ่งได้ทราบข่าวจึงร้องไห้เสียใจเป็นอันมาก จึงตั้งทัพไม่ออกรบ ปรึกษานายกอง เรียกขงเบ้งเข้ามาช่วยกู้สถานการณ์ ขงเบ้งซึ่งตรวจสอบดาวอายุขัยอยู่ ทราบว่าบังทองเสียชีวิตและกวนเป๋งมาแจ้งข่าวว่าบังทองเสียชีวิตแล้ว ขอให้ขงเบ้งยกกองทัพไปช่วยโดยด่วน ขงเบ้งทราบความจึงแบ่งกองทัพให้กวนอูและกวนเป๋งรักษาเกงจิ๋ว ให้เตียวหุยเป็นทัพหน้า ตนเองเป็นทัพหนุน ยกไปช่วยเล่าปี่ต่อไป
จะต้องกล่าวว่าในศึกคราวนี้ บังทองรู้อยู่เต็มอกว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่อันตราย แต่ก็ยังประมาทฝ่ายเสฉวนมากเกินไป ที่คิดว่า ฝ่ายตรงข้ามจะไม่ส่งกำลังมาดักซุ่มที่ช่องเขาฮกห้องโห(เนินหงส์ร่วง) ซึ่งความประมาทเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการทำงานต่างๆ หากเรามีความประมาท ทุกอย่างย่อมเสียหาย แม้กระทั่งชีวิต เฉกเช่นบังทองที่ต้องมาทิ้งชีวิตที่เนินหงส์ร่วง