อุปกรณ์ชงชา

อุปกรณ์ชงชา เพราะเป็นแหล่งกำเนิดชา จีนจึงพ่วงตำแหน่งเจ้าแหล่งอุปกรณ์ชงชาชั้นเยี่ยมเข้าไปด้วย กาน้ำชาและถ้วยชาแบบดินเผาจากจีนขึ้นชื่อเรื่องการรักษาความร้อนด้ายดีและ นาน โดยไม่ทำให้น้ำชาเปลี่ยนรสชาติ

กาน้ำชาตามแบบของจีนคือ ต้องจับถนัด ไม่ทำให้มือของเราร้อนจนพอง เวลาเทน้ำชาจากกาฝาต้องไม่หลุดออกมา แต่หากเป็นการชงชาผง แบบชาเขียวญี่ปุ่นที่ต้องผสมผงชากับน้ำร้อนในถ้วยชา ส่วนใหญ่นิยมชุดน้ำชาเครื่องปั่นดินเผาแบบด้าน

สำหรับกาต้มชาแบบแก้ว เป็นกาชายุคใหม่ที่ทำให้เราสามารถมองเหงการเปลี่ยนแปลงของน้ำที่จะค่อยๆ เปลี่ยนสี จากน้ำใสๆ เป็นสีเหลืองทองหรือน้ำตาล มองเหงการคลี่ของใบชาขณะต้ม ช่วยเพิ่มสีสันให้กับการชงชายุคใหม่

ในวงการน้ำชานั้นด้ายเปรียบให้กาน้ำชาเป็นเสมือนพ่อก้อชา และน้ำเปรียบเสมือนแม่ ผู้ให้กำเนิดชา

ปั้นน้ำชา (ป้านชา) เป็นกาน้ำชาประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมแพร่หลายในเอเชีย มี 2 ลักษณะคือ ปั่นสาย เป็นกาน้ำชาที่มีไม้ไผ่หรือเชือกแข็งผูกติดอยู่กับกาน้ำชาทั้ง 2 ด้าน ทำเป็นสายหิ้วเพื่อให้เราจับกาน้ำชาด้ายสะดวกขึ้น อีแบบเรียกกังว่า ปั่นหู เป็นกาน้ำชาที่มีหูจับอยู่ด้านข้างเพื่อให้ใช้นิ้วสอดเข้าไปจับ ทำให้การรินน้ำชาง่ายขึ้น

ชาวจีนนิยมให้กาน้ำชาหินเคลือบในการชงชาดำ เพราะหินเคลือบจะช่วยดึงกลิ่นหอมของชาออกมาได้มากเป็นพิเศษ สำหรับชาอัสสัม หรือชาที่มีรสชาติเข้มข้นชนิดอื่น มีคำแนะนำจากต้นตำหรับให้ใช้กาโลหะเพื่อรักษารสชาติและกลิ่นในขณะต้มหรือชง นั้นเอง แต่หากเป็นชาเขียว ชาดาร์จีลิ่ง หรือชาอู่หลง ที่มีรสอ่อนๆ นิยมใช้กาน้ำชาดินเผาหรือปั่นน้ำชาแบบจีน

มีคนกล่าวว่า การดื่มชาเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ด้วยเหตุที่ว่า ขั้นตอนการชงชาและอุปกรณ์การชงชานั้นมีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นต่าง กันในแต่ละประเทศ ในจีน และญี่ปุ่น ได้ยึดเอาประเพณีที่สืบทอดต่อกันชั่วลูกชั่วหลาน เช่น ในประเทศญี่ปุ่น มีการกล่าวอ้างถึงในหนังสือที่เขียนขึ้นโดย Kakuzo ว่า ” ชาเป็นมากกว่าสิ่งที่เกินจริงแห่งรูปแบบของการดื่ม มันเป็นศาสตร์แห่งศิลปะของชีวิต” พิธีกรรมซึ่งบางครั้งกินเวลายาวนานถึง 4 ชั่วโมง ได้รวมเอาส่วนประกอบสำคัญต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นปรัชญาหรือศิลปะของญี่ปุ่นอันงดงาม รวมถึงการเชื่อมโยง 4 หลักสำคัญ คือ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียว ( harmony) กับคนและธรรมชาติ , ความเคารพ (respect) ต่อบุคคลอื่น , ความบริสุทธิ์ ( purity) ของหัวใจและจิตใจ , ความสงบ (tranquility)

ในประเทศจีน ศิลปะการชงชาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก จะมีการเน้นถึงปัจจัยต่างๆ ที่สำคัญในการเตรียมน้ำชาเพื่อให้ได้น้ำชาที่ให้สี รสชาด และกลิ่นที่สมบูรณ์แบบ โดยมีการเน้นเรื่องของปริมาณใบชา อุณหภูมิน้ำ เวลา เป็นต้น และถ้าเอ่ยถึงศิลปะการชงชาตามแบบจีน ที่เรียกว่า กังฟู ( Gongfu) มีอุปกรณ์มากมาย คือ

ถาดรองน้ำ ขนาดเล็กใหญ่แล้วแต่ความเหมาะสม

ถ้วยดมและถ้วยดื่ม ซึ่งมีทั้งที่เป็นชุดเล็ก ( 2 ใบ) ชุดกลาง ( 4 ใบ) และชุดใหญ่ (6 ใบ) เป็นต้น แก้วกลางพร้อมที่กรองใบชา

ป้านชา กาชาทั่วไปจะมีอยู่ 2 ชนิดคือ ดินเผา และเซรามิค กาดินเผาจะสามารถเก็บกลิ่นได้ดีกว่า เนื่องจากกลิ่นของชาจะแทรกซึมตามรูพรุนของเนื้อดิน กาดินเผาที่ใช้ไปนานๆ กลิ่นหอมของชาจะยังคงอยู่ ดังนั้นจึงเหมาะกับชาที่ให้กลิ่นหอม เช่น ชาอูหลงและชาดำ กาชาเมื่อใช้เสร็จแล้วไม่จำเป็นต้องล้างด้วยน้ำยา เพียงลวกด้วยน้ำร้อนให้สะอาดเพื่อที่ว่ากลิ่นของชาจะยังคงอยู่ เมื่อนำมาใช้ ก็เพียงลวกน้ำร้อนก่อนทีหนึ่ง เพื่ออุ่นกาชา
ลักษณะของกาดินเผาที่ดี คือ